วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557


แอสต้าแซนทิน (Astaxanthin)

แอสต้าแซนทิน เป็นสารอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่ม

แคโรทีนอยด์ (Carotenoids)

เป็นสารอาหารที่โด่งดังด้วยผลวิจัยทางการแพทย์

มากมาย เนื่องด้วยสูตรโครงสร้างที่เป็นเอกลักษณ์

ของแอสตาแซนธิน ในการปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์

ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งแตกต่างกับเบต้าแคโรทีนวิตามินซี และ สารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น 

ที่แค่ช่วยปกป้องแค่ภายในหรือภายนอกของเยื่อหุ้มเซลล์ พบว่า แอสตาแซนธิน มีคุณสมบัติพิเศษ

ที่สามารถปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ได้ทั้งภายในและภายนอก ดังนั้น จึงเหมือนกับว่า แอสตาแซติน สามารถ

ปกป้องเซลล์ได้ครอบคลุมมากกว่า แอสต้าแซนทิน ยังมีคุณสมบัติในกาปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์จากการ

ทำลาย ของอนุมูลอิสระ ปกป้อง DNA หรือสารพันธุกรรมในเซลล์จากการถูกทำลาย ซึ่งป้องกันการ

กลายพันธุ์ของเซลล์ เป็นการป้องกันมะเร็งได้ ป้องกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยแสงแดดและมี

บทบาทสำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แอสตาแซนทิน สามารถใช้ร่วมกับสารสกัดเมล็ดองุ่นใน

การป้องกันเส้นเลือดเสื่อม และเส้นเลือดขอดได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของแอสต้าแซนทิน

ป้องกัน และฟื้นฟูจอตาที่เสื่อม ซึ่งพบมากในผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งจอประสาทตาจะเป็น

จุดรับภาพของลูกตาช่วยยับยั้งการสะสมของกรดในดวงตา อันเป็นสาเหตุให้ดวงตาอ่อนล้า 

ช่วยป้องกันดวงตาจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตป้องกันการเสื่อมของไต และหลอดเลือดในผู้ป่วย

เบาหวาน ป้องกันและบำบัดในผู้ป่วยความจำเสื่อม และพาร์กินสันปรับสมดุลของโคเลสเตอรอล 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง LDL ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลตัวร้าย ช่วยให้ผนังหลอดเลือดยืดหยุ่นมากขึ้น 

ในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ควรใช้ร่วมกับสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ลดภาวะอักเสบในร่างกาย ช่วยสร้าง

ภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยภูมิแพ้ตัวเอง ภูมิต้านทานต่ำและการติดเชื้อไวรัสเรื้อรัง เช่น กลุ่มผู้ป่วย AIDS ผู้ติด

เชื้อไวรัสงูสวัด และเริมทำให้สเปิร์มแข็งแรงขึ้นทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อมีสุขภาพดีขึ้น ช่วยให้กล้าม

เนื้อมีความทนทานมากขึ้นปกป้องโครงสร้างผิวจากการถูกทำลายโดยแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต

ช่วย กระชับรูขุมขนลดเลือนริ้วรอย ปรับสมดุลความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจ ช่วยบรรเทาอาการ

ต่อมลูกหมากอักเสบหรือต่อมลูกหมากโต และมะเร็งต่อมลูกหมาก ช่วยการซ่อมแซม และฟื้นฟูเซลล์

สมองและหลอดเลือดในผู้ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก หรือผู้ป่วยที่ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง

และยังช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหารอีกด้วย


แหล่งที่พบ แอสตาแซนทิน ในธรรมชาติ พบได้ในปลาทะเล และ สาหร่ายทะเลสีแดง สายพันธุ์

Haematococcus Pluvialis และสัตว์ทะเลบางชนิด เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราน์ กุ้ง และ

กุ้งลอปสเตอร์แอสตาแซนทินเป็นสารสีแดงที่พบในปลาแซลมอน ไข่ปลาคาเวียร์ เปลือกกุ้ง-ปู 

ร่างกายไม่สามารถสร้างสารชนิดนี้ได้ เราจะได้รับสารชนิดนี้จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในปริมาณ

ที่น้อยมากเช่น ปลาแซลมอน 200 กรัม จะมีแอสตาแซนทิน เพียง 1 มิลลิกรัม

แอสตาแซนทิน เป็นส่วนหนึ่งในอาหารของมนุษย์มายาวนานหลายพันปี มีความปลอดภัยสูง 

มีการทดลองทางคลินิกโดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลองรับประทานอาหารที่ผลิตจาก Microalgae 

(สาหร่ายขนาดเล็ก) ที่อุดมไปด้วยแอสตาแซนทิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน 

โดยไม่พบผลข้างเคียงใดๆและจากการ ทดสอบ Full Acute & Sub Chronic, Ames Test & Gene 

Toxicity และการค้น หาเอกสารทางวิชาการทั่วโลกนั้นไม่พบรายงานที่มีผลข้างเคียงในทางลบ 

และจากข้อมูลมีการนำสาหร่ายทะเลสีแดงสายพันธุ์ Haematococcus Pluvialis ซึ่งมีสาร

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) อยู่เป็นจำนวนมาก นำมาสกัดเป็นอาหารเสริมและได้รับความนิยมเป็น

อย่างมากในพื้นที่แถบสแกนดิเนเวีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 และสาร แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

มีการวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในตลาดตั้งแต่ปีค.ศ.1999จนถึงปัจจุบัน



ขนาดบรรจุ : 30 Capsules 

ราคา         : 500 บาท

โปรโมชั่น   : ซื้อ Astaxanthin 2 กล่อง แถมฟรี Multi Mineral 30 capsules

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น